สตอรี่กลับไทยช่วง Covid-19

 หลังจากที่เราลงมาจากเครื่องแล้ว พอเข้าสู่ตัวอาคารปุ๊บ จะมีเจ้าหน้าบอกให้นั่งเป็นแถวๆแบบนี้ ระหว่างนั่งรอก็เตรียมเอกสารไว้เลยค่ะ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ (ที่ใส่ชุดป้องกันเต็มที่) มาคอยตรวจเอกสารให้ นอกจากเอกสารแล้ว เราต้องเตรียมตั๋วเครื่องบินไว้ด้วยนะคะ เราคิดว่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ track ได้ว่าเรามาเที่ยวไหน ที่นั่งไหน เผื่อว่าเราติดเชื้อจะได้เฝ้าระวังคนที่นั่งข้างๆหรือคนที่มาเที่ยวบินเดียวกันได้ถูก สำหรับคนที่จองโรงแรมเอง จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ จะมีบัตร ASQ มาติดที่เสื้อเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้แยกไปส่งได้ถูกโรงแรมค่ะ (การจองโรงแรมเอง เล่าไปเมื่อตอนต้นๆก่อนหน้านี้นะคะ) คอสตูมเจ้าหน้าที่ จริงๆแล้วพอเห็นเจ้าหน้าที่ป้องกันกันเต็มที่แบบนี้แล้ว คนละเรื่องกับที่สวีเดนเลย 55555 คนด้านหน้าก็จะถูกเรียกไปเรื่อยๆค่ะ เราก็ขยับตามขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดคัดกรองค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะไม่มีมือ) จะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 6 คนอยู่ประจำโต๊ะ พอถึงคิวเราก็จะเดินไปหาเจ้าหน้าที่ ส่งเอกสาร เจ้าหน้าที่จะถามข้อมูลทั่วไปเช่น มีไข้ ไอ จาม ไหม จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส โรคประจำตัว มียากินไหม พอเสร

 เกทที่เราต้องไปรอคือ B23 ซึ่งจริงๆแล้ว พอเดินไปเรื่อยๆ เจอกลุ่มคนไทยเยอะๆที่ไหนคือตรงนั้นเลยค่ะ เมื่อไปถึงแล้ว เราต้องไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจเอกสารอีกครั้ง ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าต้องไปหาเจ้าหน้าที่ แต่จะมีเสียงประกาศเรื่อยๆว่า ใครที่ยังไม่ได้รับบัตรคิว ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจเอกสารและรับบัตรคิวด้วย  เราเลยไปหาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะถามชื่อ นามสกุลและให้บัตรคิวเรามา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีปึกกระดาษรายชื่อคนไทยทุกคนที่กลับเที่ยวนั้น เราคิดเองว่าเจ้าหน้าที่ต้องเช็คด้วยว่ามาครบรึยัง ใครยังไม่มา จะได้ตาม ซึ่งเราประมาณคร่าวๆจากสายตา น่าจะมีคนไทยกลับประมาณ 3xx คน เจ้าหน้าที่จะเช็คเอกสารเราอีกรอบนึงค่ะ คราวนี้จะดูตั๋วด้วย พอเช็คทุกอย่างหมดเรียบร้อยก็รอเวลาขึ้นเครื่องได้เลยค่ะ ในช่วงที่รอ เจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำเมืองแฟรงค์เฟิร์ต จะมีข้าว น้ำ ขนมมาแจกค่ะ ต้องกราบขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะตอนนั้นหิวมาก T^T ตามกำหนดการแล้ว เครื่องออก 3 ทุ่ม เราควรจะ boarding ก่อนหน้านั้น แต่รอแล้วรออีกจนสามทุ่มกว่าก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน ตอนนั้นก็ง่วง แต่ห้ามหลับ เดี๋ยวตกเครื่อง 55555555  จนก

 และแล้ว ก็มาถึงวันเดินทางกลับนั่นเองค่าาา ก่อนวันเดินทางประมาณ 1-2 วัน จะมีอีเมลจากทางการบินไทยส่งรายละเอียดเที่ยวบินและตั๋วมาให้นะคะ เราแนะนำว่าให้ปริ้นท์ออกมาด้วย เพราะจะต้องมีการตรวจแน่ๆ มันจะสะดวกกว่าเราไปเปิดในมือถือค่ะ รายละเอียดตั๋วจะเหมือนกับเที่ยวบินทั่วๆไปคือ Booking reference รายละเอียดกระเป๋า การเดินทาง เวลาขึ้นบิน เวลาถึง ฯลฯ แต่เราไม่สามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มได้จากตรงนี้นะคะ ต่อให้เราใช้ Booking ref. ไปเข้าระบบในเว็บการบินไทย มันจะไม่มีให้เลือกซื้อน้ำหนักกระเป๋าค่ะ จริงๆแล้วก่อนเดินทาง เรากังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋ามากกกก เพราะกระเป๋าเราหนัก 33 กิโลกรัม ซึ่งทางการบินไทยกำหนดไว้ว่า check-in luggage ต้องไม่เกิน 30 กิโลกรัม แถมซื้อจากหน้าเว็บไม่ได้อีก เราได้ข้อมูลจากสถานทูตว่า ทางการบินไทยไม่ได้บอกมาว่าสามารถซื้อได้ไหม เราจึงโทรหาการบินไทยซึ่งการบินไทยก็ให้คำตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ การบินไทยแจ้งว่า เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินพิเศษที่ทางสถานทูต (ลูกค้า) จองโดยตรงกับสายการบิน การบินไทยไม่สามารถให้คำตอบได้ จะต้องถามจากสถานทูตค่ะ เราเลยโทรหาสถานทูตไทยที่เยอรมันค่ะ ซึ่งสายไม่ว่าง

หลังจากที่เราได้เที่ยวบินแล้วนะคะ สถานทูตจะส่งอีเมลมา บอกรายละเอียดทั้งหมดว่าเราต้องทำอะไรบ้าง หลักๆคือเอกสาร ซึ่งตัวเราเองมีเวลาเตรียมประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่เตรียมทันแน่นอนค่ะ ระหว่างนี้ก็ต้องตรวจสอบอีเมลตลอดเวลาด้วยนะคะ เพราะสถานทูตจะส่งแบบฟอร์มเก็บข้อมูลการกลับไทยมาให้กรอกเรื่อยๆค่ะ 1. แบบฟอร์มลงทะเบียนการกลับไทย 2. Health screening form 3. แบบฟอร์ม T8 ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องปริ้นท์ออกมา กรอกแบบฟอร์มให้เรียบร้อยแล้วสแกนส่งกลับไปที่อีเมลของสถานทูตนะคะ หากไม่สะดวกจะปริ้นท์ หรือไม่มีเครื่องปริ้นท์ แนะนำให้เดินทางไปที่สถานทูตด้วยตนเองค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลเรื่องนี้นะคะ (Floragatan 3 Stockholm) ตัวอย่างเอกสารข้อ 1-3 4. จ่ายค่าตั๋ว ซึ่งเที่ยวบินที่เรากลับคือ TG923 Frankfurt-BKK ราคาตั๋วอยู่ที่ 780 ยูโร ชำระเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีของการบินไทย (สถานทูตจะส่งรายละเอียดให้เรานะคะ) ซึ่งการเดินทางจากสวีเดนไปยังแฟรงเฟิร์ต เราต้องซื้อตั๋วเองค่ะ สถานทูตจะมีเที่ยวบินแนะนำมาให้ว่าควรซื้อเที่ยวไหน สายการบินไหน และ เราควรเผื่อเวลาที่สนามบินแฟรงเฟิร์ตอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงด้วยนะคะ เนื่องจากต้อง

สวัสดีค่าา :) ฝนนะคะ ก่อนหน้านี้เป็นนักเรียนทุนที่ไปเรียนไกลโพ้นถึงสวีเดน และเพิ่งจะสอบจบไปหมาดๆเมื่อเดือน มิถุนายน 2020 นี่เอง เมื่อสอบจบด้วย ด้วยปัญหาวีซ่าเป็นตัวบีบบังคับให้เราต้องกลับประเทศไทย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาสวีเดนไม่เคยมีมาตรการเคร่งเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 เลย ถึงแม้จะมีมาตรการออกมาให้เว้นระยะห่าง 2 เมตรและชุมนุมไม่เกิน 50 คน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ไม่มีใครทำได้ขนาดนั้น ยิ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ที่คนมักจะออกมาเที่ยงรับแสงอาทิตย์กันด้วยแล้ว ทำให้สวีเดนราวกับเป็นประเทศที่ไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสยังไงยังงั้น ช่วงที่เรากำลังจะกลับ เป็นช่วงที่ประเทศไทยยังคงปิดกั้นชายแดนและควบคุมปริมาณคนเข้าประเทศอยู่ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำในการจะกลับประเทศคือ ติดต่อสถานทูต ค่ะ สำหรับสถานทูตไทยในสวีเดน มีหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการกลับประเทศไทย ดังนี้นะคะ (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/RoyalThaiEmbassyStockholm/posts/3027449537350473  ) 1. เข้าไปลงทะเบียนที่  https://forms.gle/WpYAN9BnseprX5Nd6 Google form ที่ให้กรอกแจ้งความประสงค์กลับ หน้าตาแบบนี้นะคะ 2. เมื่อลงทะเบียนแล